HASGUARD แบรนด์ไทยผู้บุกเบิกสตรีทแฟชั่น ย้ำความสำเร็จในยุคโควิด-19

ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจทั่วโลก แบรนด์ Street Hi-End สัญชาติไทย “HASGUARD” กลับกลายเป็นดาวเด่นที่ฉายแสงเจิดจรัส ด้วยการปรับตัว สร้างสรรค์สินค้าที่มีเอกลักษณ์ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับธุรกิจอื่นๆ ในการฝ่าฟันวิกฤตไปด้วยกัน

จุดเริ่มต้นจากวิกฤต สู่แบรนด์ Street Hi-End สุดปัง

HASGUARD ถือกำเนิดขึ้นในปี 2564 ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 เริ่มต้นจากการผลิตwindbreaker (เสื้อกันลม) แบบมีชิวปิดหน้า เพื่อช่วยป้องกันละอองฝอยในช่วงที่ไวรัสแพร่ระบาด ชื่อแบรนด์มาจากการผสมคำระหว่าง “hashtag” กับ “guard” ซึ่งสื่อถึงทั้งความเป็นเอกลักษณ์และการป้องกัน

หลังจากเริ่มขายสินค้าตัวแรกผ่านช่องทางออนไลน์เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 แบรนด์ HASGUARD ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ห้างเซ็นทรัลชลบุรี ในเดือนกันยายน 2564 สินค้าของแบรนด์โดดเด่นด้วยลายเสื้อที่สะท้อนถึงยุคโควิด-19 ผสมผสานกับลายที่ออกแบบมาเพื่อ HASGUARD โดยเฉพาะ โทนสีหลักคือขาว-ดำ ผสมผสานกับลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น โลโก้ของแบรนด์ และภาพวาดแนวสีน้ำมันของบุคคลยุค Renaissance ที่สวม Mask ซึ่งสะท้อนถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คนทั่วโลกต้องจดจำ

HASGUARD ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับจุดเริ่มต้น แต่เดินหน้าพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง

ภายในเวลาเพียง 1 ปี HASGUARD ขยายสาขาไปยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ และขยายเครือข่ายไปยังต่างประเทศ (ฮ่องกง, สิงคโปร์, เมียนมา)

ปัจจัยความสำเร็จของ HASGUARD:

การออกแบบที่มีเอกลักษณ์: HASGUARD มุ่งเน้นการออกแบบสินค้าที่มีเอกลักษณ์ ดึงดูดสายตา สะท้อนถึงยุคสมัย และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
คุณภาพดี: HASGUARD พิถีพิถันในการคัดสรรวัสดุ เน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดี ทนทาน ตัดเย็บประณีต
เข้าถึงได้ง่าย: HASGUARD มีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ลูกค้าสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว

คอเลคชั่นใหม่ HASGUARD MET STREET ART

ศิลปะอีกรูปแบบหนึ่งที่เราจะเห็นได้ตามท้องถนน Hasguard จึงได้ดึงความสวยงามของศิลปะแนวนี้ มาใส่ความ Luxury ตามสไตล์ของเรา พร้อมกับภาพสไตล์สีน้ำมันที่เป็นจุดเด่นของทางแบรนด์

ความเป็น Street Art ที่มาแรงในช่วงนี้ เป็นกระแสนิยมอย่างมาก คิดว่าศิลปะ grafity จะสร้างสีสรรค์ให้การแต่งตัวสนุกมากขึ้น

จึงคิดว่าสาย Street น่าจะเลือกหยิบมาเป็น 1 item ในการแต่งตัว จนเป็นการทำความรู้จักกับเสื้อยืด Hasguard ที่ตั้งใจในรายละเอียดของคุณภาพและดีไซน์มากขึ้น

HASGUARD กับเป้าหมายในอนาคต

จากกระแสตอบรับที่เราเปิดสาขา เซ็นทรัลพัทยาบีช และ pop up เซ็นทรัลฟลอเรชภูเก็ต ทำให้มีต่างชาติให้ความสนใจแบรนด์เราดีอย่างมาก และมีออเดอร์จากต่างประเทศที่สั่งซื้อเข้ามา ทั้งไปใส่เองและจำหน่ายต่อ หากซื้อที่ไทยเสื้อเราราคาพันกว่าบาท ต่างประเทศขายในราคาสามถึงสี่พัน ทำให้เราสนใจตลาดต่างประเทศ และจะมีแผนในการส่งออกไปให้ต่างประเทศได้เห็นศักยภาพของแบรนด์ไทย ที่ฝันไว้ว่าจะไปอยู่ในตลาด Hi-End ของสาย street wear