ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3โดยมี EBITDA margin แข็งแกร่งอยู่ที่ 41% และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานขยายตัวต่อเนื่องที่ 4,200 ล้านบาท ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเป็นผลจากความพยายามอย่างต่อเนื่องในการปรับเปลี่ยนธุรกิจหลักเข้าสู่รูปแบบดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในการใช้งานให้ดีขึ้น และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอีกด้วย รวมถึงการลดลงของการให้ส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์ เนื่องจากในปัจจุบันบริษัทให้ความสำคัญในการเพิ่มฐานลูกค้าโดยไม่ใช้กลยุทธ์ลดราคาค่าเครื่องเป็นหลัก
แม้ว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายในไตรมาสนี้ลดลง 1.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่การเติบโตของรายได้จากการให้บริการทั้งปียังมีแนวโน้มอยู่ในประมาณการที่ให้ไว้ การเติบโตของรายได้จากบริการข้อมูลยังคงแข็งแกร่ง โดยบริษัทได้ลงทุนในโครงข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตของความต้องการใช้บริการข้อมูล จำนวนสถานีฐานภายใต้ระบบใบอนุญาตเพิ่มขึ้นกว่า 42%จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในปัจจุบัน เครือข่ายของดีแทคมีความครอบคลุมถึง 94% ของจำนวนประชากรในประเทศ นอกจากนี้ การร่วมมือกับบมจ.ทีโอที ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงบนคลื่น 2300 MHz ยังช่วยเพิ่มแบนด์วิธในการให้บริการ 4G อีกด้วย
จำนวนผู้ใช้บริการ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 23.1 ล้านเลขหมาย โดย 97% ของเลขหมายลงทะเบียนภายใต้บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือใบอนุญาตให้บริการคลื่น 2100 MHz จาก กสทช.
EBITDA ของไตรมาส 3 อยู่ที่ 7,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดย EBITDA margin ยังคงอยู่ในระดับที่สูง ที่41% ต่อเนื่อง 2 ไตรมาส การเพิ่มขึ้นของกำไรเป็นผลจากการลดลงของ ค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ การให้ส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์ และค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาด
กำไรสุทธิยังคงได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของต้นทุนการให้บริการภายใต้สัญญาสัมปทาน โดยกำไรสุทธิในไตรมาส 3 อยู่ที่ 601 ล้านบาท ลดลง 9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน (คำนวณจาก EBITDA หักด้วยเงินลงทุน) อยู่ที่ 4,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกปี 2560 สอดคล้องกับประมาณการทั้งปีที่คาดไว้ ได้แก่ (1) รายได้จากการให้บริการไม่รวม IC ในระดับเดียวกันกับปีก่อน (2) EBITDA อย่างน้อยที่สุดเท่ากับปีก่อน และ (3) เงินลงทุน อยู่ในช่วง 17,000 -20,000 ล้านบาท
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็น EBITDA margin พร้อมกับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ในไตรมาสที่ 3 การนำรูปแบบดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ในธุรกิจหลักของเราอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น พร้อมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานขององค์กร นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มความหนาแน่นของเครือข่ายเพื่อรองรับการเติบโตของความต้องการด้านข้อมูลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การจับมือเป็นพันธมิตรกับบมจ.ทีโอที ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงบนคลื่น 2300 MHz จะช่วยเพิ่มปริมาณคลื่นที่มีอยู่ในมือในการให้บริการกับลูกค้าจากผลการดำเนินงานที่ดีในไตรมาสนี้ส่งผลให้สถานะทางการเงินของบริษัทยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความพร้อมทางด้านการเงินในการก้าวเข้าสู่ปีสุดท้ายของสัญญาสัมปทานที่กำลังจะหมดลง”
Leave a Reply